มาส์กหน้าใสไร้สิว ศึกปะทะ BK Mask VS Derminet Mask สิวหายเกลี้ยง

กระแสมาส์กหน้าช่วงนี้ฮิตกันมาก ผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าที่ช่วยให้ลดสิวอักเสบยุบและสิวหายเร็วขึ้น เป็นตัวเลือกที่คนเป็นสิวสนใจเป็นพิเศษ วันนี้จึงขอแชร์ประสบการณ์ใช้มาส์กลดสิว 2 แบรนด์ ที่ชอบมากที่สุดในตอนนี้ คือ BK Mask และ Derminet Mask ทั้งคู่มีประสิทธิภาพด้านการลดสิวและดูดซับความมันบนใบหน้าได้ดีทั้งคู่ แต่ว่าใครจะมีอะไรดีกว่ากัน ลองมาดูรีวิวกันค่ะ

รูปร่างหน้าตาของ BK Mask และ Derminet Mask

มาเริ่มที่ BK Mask กันเลยจ้า

เป็นมาส์กที่มีส่วนผสมของ ชาเขียว คุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรียและทำให้สิวยุบลงเร็วขึ้น โดยหลักๆหน้าที่ของมาส์กลดสิวนี้ จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ดีมาก ผิวหน้าจึงกระจ่างใส ไร้สิวนั่นเอง

หาซื้อได้ที่ : ร้านค้าใช้นำ , 7-eleven

ต่อมาคือ Derminet Mask

สำหรับ Derminet Mask ตัวนี้ค่อนข้างจะหาซื้อได้ยาก มีขายออนไลน์ ตัวนี้เป็นเวชสำอางที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เหมาะสำหรับผิวทีเป็นสิวและผิวแพ้ง่ายมากๆ คุณสัมบัติคือ ช่วยรักษาสิว ลดสิว กำจัดเซลล์เสื่อมสภาพ ช่วยให้รูขุมขนสะอาด ลดการสะสมของแบคทีเรีย ต้นเหตุของสิว เสริมให้ผิวดูกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ

หาซื้อได้ที่ : facebook.com/derminet.thailand

เปรียบเทียบ BK Mask และ Derminet Mask กัน

เริ่มที่เนื้อสัมผัส

BK Mask : เนื้อครีมเป็นสีเขียว เป็นมาส์กที่เนื้อแน่นดี หนืด เหนียว จึงทำให้บีบออกจากหลอดยากมาก (ใช้ครั้งแรกๆบีบออกปกติ พอสัก 2-3 อาทิตย์ เนื้อมาส์กเริ่มแข็ง เลยทำให้บีบออกจากหลอดยากขึ้น) เกลี่ยที่ผิวได้ยาก ทำให้เวลาใช้กับใบหน้าค่อนข้างเปลืองเนื้อมาส์กเอาการ เนื้อมาส์กแห้งเร็ว รู้สึกเหมือนว่าจะเกาะผิวได้ไม่ค่อยดีเท่าไร

Derminet Mask : เนื้อครีมสีเขียว ดูจากในรูปสีแทบไม่ต่างกัน โดยเนื้อครีมจะเนียนนุ่มมากกว่า ทำให้เวลาเกลี่ยที่ผิวทำได้ง่ายกว่า BK Mask เมื่อทิ้งไว้ให้แห้งเนื้อครีมยังสามารถยึดเกาะกับผิวได้แน่นหนึบ

เกลี่ย Mask กับผิวหน้ากันดีกว่า
ใช้ในปริมาณเท่าๆกัน แล้วปล่อยให้มาส์กแห้ง ดูว่ากันกันอย่างไร

BK Mask : รู้สึกว่าหน้าตึงมากกว่า Derminet Mask จะยิ้มหรือหัวเราะอย่าแม้แต่คิด เวลามาส์กแห้งจะเห็นเป็นสีขาวๆ และจุดๆ ที่รูขุมขน ด้วยที่เนื้อ BK Mask แน่นมากจึงเห็นชัดกว่า

Derminet Mask : จากในรูปเหมือนไม่ทา แต่จริงเราทานะ ด้วยเนื้อบางเบาจึงทำให้เกลี่ยง่าย แห้งช้า จึงรู้สึกแห้งตึงน้อยกว่า เวลาที่มาส์กแห้ง เนื้อมาส์กยังเกาะผิวได้ดี ไม่มีหลุดออก

ผ่านไป 20 นาทีแล้ว เช็ดด้วยผ้าหรือล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ชอบที่สิวเสี่ยนหลุดออกง่าย หน้าเนียนเลย
Derminet Mask จะล้างออกง่ายกว่า BK Mask

BK Mask : ความรู้สึกหลังล้างออกแล้ว รู้สึกว่าหน้าไม่มัน ผิวสะอาดถึงรูขุมขน ผิวนุ่ม สิวเสี่ยนหลุดออกง๊ายง่าย รู้สึกว่ารูขุมขนกระชับ ดีดี๊

Derminet Mask : ล้างหน้าแล้วผลลัพธ์ไม่ต่างกัน รู้สึกว่าหน้านุ่ม ผิวสะอาด ผิวหน้ากระชับ เหมือนกัน สรุปดีทั้งคู่

ส่วนผสม BK Mask น้อยกว่า Derminet Mask

BK Mask : ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอมดีตรงนี้

Derminet Mask : มีน้ำหอมเล็กน้อย ซึ่งตอนมาส์กไม่ได้กลิ่นน้ำหอมนะ

ขนาดและราคา

BK Mask : ขนาด 30g ราคา 359 บาท เฉลี่ย 11.96 บาท/g
Derminet Mask : ขนาด 50g ราคา 420 บาท เฉลี่ย 8.4 บาท/g

เหมาะกันผิวแบบไหน

เราว่า Mask ทั้งคู่เหมาะกับคนผิวมัน เป็นสิวง่าย ซึ่งคุณสมบัติเหมือนกันคือ ดูดซับความมันบนใบหน้า และลดสิว สามารถมาส์กได้ทุกวัน
ส่วนผสมแห้ง และผิวผสม แนะนำให้มาส์กสัปดาห์ละ 2-3 วัน
สำหรับผู้ที่เป็นสิวผด ควรหยุดใช้มาส์กก่อน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง สิวจะแย่ไปกันใหญ่

ให้คะแนนตามความชอบส่วนตัว

ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยมีปัญหาสิวเท่าไร แต่แฟนจะเป็นสิวหนักมาก เราจึงต้องสรรหามาส์กหรือยาลดสิวให้ตลอด ตัว BK Mask และ Derminet Mask ก็หาให้เหมือนกัน แฟนเราชอบทั้งคู่นะ ซึ่งเราก็เหมือนกันชอบทั้งคู่ ผลลัพธ์ในการลดสิวทำได้ดี สิวยุบไว สิวอักเสบ(ที่อาการไม่หนักจะใช้ได้ หากหนักมากก็ต้องบีบออกเหมือนเดิม) สิวเสี่ยนหายได้ง่าย แต่ที่ต่างคือ เนื้อสัมผัส เราชอบ Derminet Mask ที่เกลี่ยง่าย ไม่เปลือง 1 หลอด ใช้นาน 2-3 เดือนได้เลย

BK Mask :
Derminet Mask :

สามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

จบแล้วสำหรับการเปรียบเทียบ “มาส์กลดสิว” BK Mask และ Derminet Mask หลายๆคนอาจจะได้ลองใช้กันมาแล้ว ติดอกติดใจก็แนะนำกันได้นะค่ะ หากใครเป็นสิวแล้วต้องการตัวช่วย แนะนำเลยค่ะ 2 ตัวนี้ ช่วยลดสิวได้ดี อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด อยู่ที่ว่าเป็นสิวอะไร เช่นสิวเสี่ยน สิวอักเสบ สิวอุดตัน จะช่วยได้ดี แต่ถ้าอาการหนักแนะนำใช้ยาแต้มสิวควบคู่กันไปจะช่วยให้บรรเทาสิวได้จ้า